บทความดีๆ เกี่ยวกับความรักที่แท้จริง

บทความดีๆ เกี่ยวกับความรักที่แท้จริง

ความรักที่แท้จริง

ความรักที่แท้จริง

  • บทความ บทความหนึ่ง ที่ผมอ่านเจอในเฟสบุ๊คโดยพี่สาวที่ผมรู้จักและนับถือคนนึงได้แชร์มาโพสไว้

** ถ้าถามผมนะตอนนี้มีความรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้ ผมตอบได้เลยว่า บทความนี้เป็นหนึ่งบทความที่สามารถทำให้เราอ่านและคิดอะไรได้
ว่าถ้าเรารักผู้หญิงคนนึงมาก แล้ว ถ้าเค้าจากเราไปอยู่ดีและมีความสุข เราจะทำใจและพร้อมจะเห็นเค้ามีความสุขกว่าตอนที่อยู่กับเราไหม
หลาย ต่อหลายคนก็คงจะทำใจไม่ได้ บ้างก็ว่าเมิงจะพระเอกไปไหน ( ซึ่งก็จริง เป็นธรรมดาของมนุยษ์ส่วนมากในโลกใบนี้ ก่อนหน้านี้ผมก็มีความรู้สึกเช่นนั้น )
แต่ถ้าเราลองมองกลับมา พร้อมทั้งถามใจตัวเองว่าเรารักเค้าจริงๆไหม ถ้ารักเค้าจริงเมื่อเห็นเค้าจากเราไปแล้วเค้ามีความสุข
ทำไมเราถึงจะดึงรั้งเค้าไว้ล่ะ เมื่อเค้ามีความสุขเราก็ควรจะทำใจและพร้อมเห็นเค้ามีความสุขและดีใจกับเค้าด้วยเช่นกัน
นั้นถึงจะตอบได้ว่าคุณรักเค้ามากจริงๆไหม

## เกริ่นโม้เรื่อยเปื่อยมานาน มาอ่านบทความนี้กันเถอะครับ ##

- ผู้ชายคนนึง พึ่งผ่านการโดนบอกเลิกจากแฟนสาว
เค้าขับรถออกมาด้วยความเฉยชา และไร้ความคิดความรู้สึก
เค้าขับรถไปเรื่อยๆ จนฝนเริ่มตกลงมา
เค้าแวะจอดรถตรงสะพาน ที่มองลงไปคือแม่น้ำสายใหญ่
มองไปนัยตา เราคงไม่สามารถเดาได้เลยว่า
เค้าคิดอะไรอยู่ในหัวของเค้า
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น หนักขึ้น และหนักขึ้นเรื่อยๆ
เค้าปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลงอย่างช้าๆ
เหมือนกำลังทิ้งตัวเองให้อยู่กับสายฝน
ชายแก่กับมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่่เห็นท่าทีต่างๆของชายหนุ่ม
อยู่เบื่องหลัง กับใต้ร่มเงาเก่าๆ บริเวณโค้งลงสะพาน
ชายแก่มองเค้าด้วยสายตาที่เป็นห่วง แต่ยังคงยิ้มอยู่อย่างงั้น
ฝนที่เริ่มตกหนักขึ้น ยังคงตกแรงขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ชายแก่ตัดสินใจเดินฝ่าลมฝนออกไปหาชายหนุ่ม
เค้าตบบ่าชายหนุ่มอย่างเบาๆ แล้วถามว่า

“เป็นอะไร พ่อหลานชาย คิดจะโดดลงไปข้างล่่างรึไง”

ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วมองหน้าชายแก่ด้วยนัยน์ตาที่เศร้าและหม่นหมอง เค้าตอบกลับไปด้วยเสียงค่อยๆว่า

“ถ้าผมตกลงไป แล้วตายก็คงดีซิครับ”

แต่ด้วยสายฝนที่แรงมาก ทำให้ชายชราคงได้ยินไม่ชัด
เค้าดึงแขนชายหนุ่มให้เดินตามเค้ามาหลบในร่มไม้
ชายหนุ่มไม่ขัดขืนอะไร และเดินตามไปอย่างช้าๆ
ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ ชายชรา บนซากต้นไม้เก่าๆ ที่พอจะนั่งได้

ชายชราถามเค้าว่า
“อกหัก มารึไงหลาน” ชายชรา ยิ้มด้วยความเอ็นดู

ชายหนุ่มตอบชายชราว่า
“คุณตารู้ได้ยังไงครับ คุณตารู้จักผมหรอ”

ชายชราหัวเราะขึ้น แล้วยิ้มด้วยสายตาที่ดูเอ็นดูมากกว่าเดิม
เค้าบอกชายหนุ่มไปว่า
“ตา อายุปูนนี้แล้ว ไอที่หลานชายเป็นอยู่ ตาก็เคยเป็น”

ชายหนุ่มเริ่มมีนัยน์ตาที่ดูครุ่นคิดขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังแฝงด้วยความเศร้าหมองไม่น้อย ด้วยสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย คงทำให้คุณตาไม่สามารถขี่รถคันเก่าเพื่อไปหลบฝนที่อื่นได้ และชายหนุ่มก็คงเศร้าเกินกว่าที่จะย้ายตัวเองออกไปจากพื้นที่ตรงนี้

ชายหนุ่มตัดสินใน ถามคุณตาว่า
“คุณตาครับ ถ้าคนที่คุณตารักเค้าไม่รักคุณตาแล้ว คุณตาจะทำยังไงหรอครับ”

ชายหนุ่มถามคุณตาแต่ยังคงไม่กล้าสบตา เสตามองออกไปนอกร่มไม้
ชายชราที่จ้องหน้าชายหนุ่มก็เริ่มละสายตาออก แล้วมองไปทางขอบสระพานที่พาชายหนุ่มออกมา

“ตาก็จะรักเค้าอยู่…”

ชายหนุ่มรู้สึกดีที่คำคอบของคุณตาดูผิดไปจากที่เค้าคิด
เค้าคงคิดว่า คุณตาจะให้เค้าตัดใจ รึอะไรสักอย่าง เค้าถามออกไปว่า ทำไมหรอครับ

“เพราะตาคิดว่า ตาแค่อยากเห็นคนที่ตารักมีความสุข ไงละ หลานชาย ไม่เห็นจำเป็นเลยนะ ที่เราจะไปครอบครองเค้า สมมติให้แฟนของเจ้าตาย กับเค้าเลิกกับเจ้าไปมีความสุข ในเจ้าเลือกมาซิ ว่าอยากได้แบบไหน”

ชายหนุ่มตอบอย่างไม่คิดว่า
“ก็ต้องอยากให้เค้าอยู่ซิครับ”

คุณตาก็ยิ้มแล้วหันมองหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง
“เห็นไหมละ เจ้าก็คิดซะว่า คนรักของเจ้าก็ยังอยู่ดี สบายดี ถ้าหลานชายจะไปอยากเจอเค้าตอนไหนก็ยังไปเจอได้”

ชายหนุ่มเริ่มมีสายตาที่คลายความเศร้าหมองมากขึ้น
แล้วบอกชายชราว่า
“แล้วคุณตารู้ได้ยังไงรึครับ ว่าผมกำลังมีปัญหา”

ชายชราหัวเราะอีกครั้ง แล้วตอบไปว่า
“ตาก็เคยมายืนตรงเนีย ตอนเมียตาเค้าตาย ตาเนียคิดนะว่าจะกระโดดลงไปข้างล่างให้มันตายๆไปเลย แต่พอดีว่าตาก็คิดขึ้นได้ว่า ตอนที่ยายแกอยู่ ยายแกบอกไว้ ว่าห้ามตาตายตาม”
ชายชรายิ้มบางๆ แล้วหัวเราะขึ้นมาเบาๆ

ชายหนุ่มบอกว่า
“ตายนี้มันห้ามกันได้ด้วยหรอครับ ฮ่าๆ”

ชายชราตอบว่า
“นั้นนะซิ แต่ตอนที่ยายแกอยู่ ตาหาเรื่องทะเลาะกับยายแกทุกวัน ขี่ไอแก่คันเนีย หนียายแกไปชนไก่ แทบทุกวัน แล้ววันที่ยายแกจะตาย ยายเค้าก็บอกกับตานะ ว่าวันนี้รู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้ตาไปชนไก่ ตาก็ด่าแกว่าไร้สาระ ก็ขับรถออกมา พอชนไก่เสร็จจะกลับ ก็เย็นแล้วหละไอหลานชาย ถึงตรงเนีย ฝนก็ตกเหมือนวันเนียเลย ตาก็หลบฝน พอฝนซา กลับไป ยายแก่ ก็ตายซะหละ ไม่รอตาเลย…”

ชายชราพูดไปด้วยท่าที ที่รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นมาได้ไม่นาน ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์วันนั้น
ชายชราก็พูดต่อว่า

“เนียหลานชาย ตาเนียเคยกอดยายแกแค่ไม่กี่ครั้งสมัยหนุ่มๆตอนแต่งงาน พอแก่ตัวก็เอาแต่ด่าแต่ทะเลาะกัน พอยายแกตายนะ หลานชายรู้ไหมว่าตาเนีย คิดถึงได้แต่ตอนที่ทำไม่ดีกับยาย แต่ยายเค้าก็ยังทนอยู่กับตาจนแก่ตาย ฮ่าๆ”

ชายหนุ่มพูดขึ้นมาว่า

“ฟังเรื่องคุณตา เรื่องผมดูเล็กไปเลยครับ ฮ่าๆ”
ฝนที่ตกก็เริ่มซาลงเรื่อยๆ

ชายชรามองไปที่ขอบสระพานอีกครั้งแล้วพูดว่า
“แต่ตายไม่เคยลืมเลยนะว่า ตอนที่เจอยายแกครั้งแรกเหมือนหลาย 40ปีก่อน ยายแกสวยขนาดไหน ฮ่าๆ พูดแล้วจะว่าตาคุย ยายแกเดินมาตรงสะพานทุกวัน มาตักบาตรแหละ (ชายชราชี้ไปทางขอบสระพาน) ตาเนียแอบมองทุกวันเลย
ถ้าตามีโอกาสนะ ตาอยากจะย้อนกลับไปอีกสักครั้ง ไปกอดยายแกไว้วันที่แกยังไม่ตายแบบสมัยหนุ่มๆ”

ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าปัญหาที่เค้าเจอเป็นเพียงเศษเสี้ยวที่ชายชราได้พบเจอมา เค้าพูดออกไปว่า
“ทำไมคุณตา ถึงอยากกอดยายละครับ ผมว่าย้อนไปตอนเป็นหนุ่มๆตอนจีบกันดีกว่า ช่วงนั้นผู้หญิงดูน่ารักสุดละครับ ดูรักเราตลอดเวลาเลย ฮ่าๆ”

ชายชราส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า
“ไม่หรอก ถ้ากลับไปตอนยายแกยังอยู่นะ ตาจะกอดยายทุกวันเหมือนตอนคบกันใหม่ๆ ยายแกบอกว่า ยายชอบให้ตากอด ตาอยากกลับไปเจอความรู้สึกนั้นอีกสักครั้ง เวลายายแกตายไป ตาจะได้จำได้ ว่าตอนนั้นนะ ตามีความสุขขนาดไหน”
ชายชรายิ้มบางๆ และมีสายตาที่ดูมีความสุขตลอดเวลาที่เล่าเรื่อง

ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้น และรู้สึกดีที่ได้ฟังเรื่องเล่าที่ชายชราเล่าให้เค้าฟัง เค้าเสตาไปมองขอบสระพานที่ชายชรายิ้มให้ดู และพูดขึ้นมาว่า

“นั้นใช่ไหมครับ ที่ตาเจอกับคุณยาย … ต่อไปถ้าผมเจอคนที่ผมรักแล้วเค้ารักผมอีก ผมจะกอดเค้าไว้ให้นานๆเลยครับ”

ชายหนุ่มหันไปมองชายชรา และพบว่าชายชราหายไปแล้ว เค้าตะโกนเรียกหา แต่ก็ไม่พบกระทั่งร่องรอย รึมอเตอร์ไซค์คันเก่า คันนั้น เค้าคิดในใจ ว่ารู้สึกขอบคุณที่คุณตามาเล่าอะไรให้เค้าฟัง เค้าเดินตรงไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ ด้วยรอยยิ้ม และนัยน์ตาทีไม่เศร้าอีกต่อไป เค้าพูดขึ้นมาว่า

“ขอบคุณนะครับ คุณตา ขอให้คุณตามีความสุขกับคุณยายนะครับ”

## อย่างที่ผมบอก เมื่อคุณอ่านบทความนี้จบ คุณลองถามใจคุณดูว่า คุณรักเค้ามากแค่ไหน
และพยายามทำใจ เก็บส่ิงดีๆ ที่เคยมีและทำร่วมกันและกันไว้ แม้น้ำตาจะไหลก็ต้องบอกหัวใจว่า ขอให้เค้ามีความสุขและเจอสิ่งแต่สิ่งที่ดีๆ

By. Harubiji_pee